วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557

วิธีการเลือกใช้บัตรเครดิตอย่างชาญฉลาด

หากไม่อยากให้บัตรเครดิตมาครอบงำชีวิตของเราได้ เรามีวิธีใช้บัตรเครดิตมาให้เกิดประโยชน์สูงสุด (เราจะขอยกตัวอย่างบัตรขึ้นมา อาจมีการเปลี่ยนแปลงในเงื่อนไขของแต่ละประเภทบัตรเครดิต ตามวันและเวลาที่เปลี่ยนไป ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร แต่ข้อมูลที่กล่าวถึงต่อไปนี้ เป็นประสบการณ์จากการใช้บัตรของผู้เขียน - ถึงวันที่ 25 สิงหาคม 2556)

ศึกษาโปรโมชั่นบัตรเครดิตและเงื่อนไขต่างๆ ของแต่ละบัตรก่อนสมัครบัตรเครดิต และเลือกใช้บัตรที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของเรา **โปรดพิจารณาเรื่องระยะเวลาของโปรโมชั่นบัตรเครดิต บางบัตรเสนอโปรโมชั่นพิเศษสุดๆ แต่อยู่ได้แค่ 3 เดือน หลังจากนั้น เราใช้รูดไปตั้งเยอะ มารู้ตัวอีกที ก็ตอนที่เห็นใบแจ้งยอดแล้วว่าไม่ได้เงินคืน


เราขอยกตัวอย่างการเลือกบัตรเครดิตดังนี้
-  หากเราบินสายการบินไทยบ่อยๆ เลือก บัตร KTC Royal Orchid Plus เพื่อสะสมไมล์แลกซื้อตั๋วบิน

-  หากเราช้อปปิ้งที่เซ็นทรัลบ่อยๆ เลือก บัตร Central Card ลด 5% เมื่อซื้อสินค้าในตัวห้างฯ

-  หากเราช้อปปิ้งที่พารากอน เดอะมอลล์ เอ็มโพเรียม เลือก บัตร Citi M Visa  ลด 5% เมื่อซื้อสินค้าในตัวห้างฯ ฯลฯ

หากเราเติมน้ำมันบ่อยๆ เลือกบัตรที่มี cash back ที่คืนเงินให้สูงๆ เช่น บัตร SCBT (Standard Chartered) 4-7% ทุกๆ800บาท ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบัตรและระยะเวลาของโปรโมชั่น รายละเอียดเพิ่มเติมหาอ่านได้ที่เว็ปไซต์ของธนาคารผู้ออกบัตร

-  หากเราจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ เองอยู่แล้ว หากชำระตามตัวแทน เช่น 7-eleven ก็จะมีค่าธรรมเนียม 15บาท หากเราผูกกับบัตรเครดิต ก็จะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แถมบัตรเครดิตของบางธนาคารยังสะสมคะแนนให้อีกด้วย เช่น บัตรเครดิตของกสิกรไทย (บัตรเครดิตส่วนใหญ่ จะไม่สะสมคะแนนให้การชำระค่าสาธารณูปโภค)

ระวังค่าธรรมเนียมรายปี ส่วนใหญ่จะได้สิทธิ์ฟรีค่าธรรมเนียมปีแรก ในปีถัดไปต้องมีการใช้จ่ายรายเดือน/รายปีครบตามที่ธนาคารกำหนด แต่หากใช้จ่ายไม่ถึงจริงๆ ก็สามารถโทรไปขอละเว้น (Wave) ค่าธรรมเนียมรายปีได้เมื่อครบปี แต่พอถึงเวลา ใครจะมานั่งจำว่าครบปีแล้ว จึงควรพยายามหลีกเลี่ยงบัตรที่มีค่าธรรมเนียมรายปี ดีที่สุด หรือรอจนมันคิดค่าธรรมเนียมรวมอยู่ใน Statement แล้ว ค่อยโทรไปขอละเว้น ทางธนาคารก็จะให้ชำระแค่ยอดที่ยังไม่รวมค่าธรรมเนียม หรือหากขอละเว้นไม่ทัน ทางธนาคารก็จะเครดิตเงินคืนกลับมาให้ ในรอบบิลถัดไป

จดบันทึกสิ่งสำคัญหลักๆ ของบัญชีบัตรเครดิต เมื่อ ได้บัตรที่ถูกใจ แล้วก็ควรจดบันทึกหรือเก็บบิลรายเดือนไว้ เพื่อใช้ดูและติดตามชำระบัตรในแต่ละรอบบิล สิ่งสำคัญดังกล่าว ได้แก่ วันตัดรอบบิล (Cut-off Date) วันครบกำหนดชำระ (Payment Due Date) วงเงินบัตรเครดิต (Credit Line) หรืออาจจะดูดอกเบี้ย (Interest Rate) ดูเผื่อไว้กันพลาด ส่วนใหญ่ธนาคารจะให้เครดิตระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยสูงสุดถึง 45-55 วัน หรือนับเป็น 15-25 วันนับจากวันตัดยอดบิล

-  KTC, กสิกร, กรุงเทพ, Citibank 15 วัน

Central Card 20 วัน

SCBT (Standard Chartered) 25 วัน

วางแผนรายรับรายจ่าย เมื่อ ทราบวันครบกำหนดชำระแล้ว ก็วางแผนรายรับรายจ่ายของตนเอง เพื่อให้เหลือเงินเพียงพอมาชำระหนี้ภายในวันที่กำหนด เท่านี้ก็จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้ตนเองในภายหลัง เพื่อให้มั่นใจว่าเราไม่ลืมชำระบัตรทุกงวด เราสามารถชำระบัตรเครดิตโดยหักจากบัญชีได้ (Direct Debit) ควรเปิดบัญชีออมทรัพย์ของธนาคารเดียวกันกับบัตร เพื่อไม่ให้เสียค่าธรรมเนียมในการหักผ่านบัญชี บางบัตรสามารถหักจาก บัญชีของ ธนาคารอื่นได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม เช่น บัตร Citibank สามารถหักบัญชีธนาคารกสิกร กรุงเทพ กรุงศรีอยุธยา และไทยพาณิชย์ ได้ วิธีนี้บางท่านที่กลัวว่ารายจ่ายจะไม่ได้อยู่ในการควบคุม หมั่นนำสมุดคู่ฝาก (Passbook) ไปอัพเดทบ่อยๆ เพื่อตรวจดูความเคลื่อนไหว ซึ่งเดี๋ยวนี้สามารถเช็คผ่านทาง Online Banking หรือ Telephone Banking ได้แล้ว

ใช้บัตรให้เหมาะสมกับสินค้าและบริการ เมื่อถึงคราวหยิบบัตรออกจากกระเป๋าสตางค์เพื่อใช้รูดซื้อสินค้าและบริการ อย่าลืมสังเกตุว่าสินค้านั้นๆ อยู่ในรายการโปรโมชั่นบัตรเครดิตที่จัดร่วมกับบัตรเครดิต ที่เราถืออยู่ใช่หรือไม่

หากใช่ >> ก็ตรวจดูเงื่อนไขโปรโมชั่นบัตรเครดิตในการใช้ด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าเราเล่นเกมตรงตามกติกาแล้วนะ เธอทำอะไรชั้นไม่ได้หรอก หึหึหึ!! 

หากไม่ใช่ >> ก็ไม่เป็นไร หยิบบัตรใบที่เราใช้บ่อยที่สุดขึ้นมาใช้ (เพราะยังไงเดือนนี้ ชั้นก็ต้องไปชำระบัตรใบนี้อยู่แล้ว) หรือบัตรใบที่คิดว่าสะสมคะแนนได้ดีที่สุด เพราะแต่ละธนาคาร ของรางวัลหรือบัตรกำนันที่เสนอนั้นคล้ายๆ กันหมด เลือกเอาตามอัธยาศัยเลยจ้า


ที่มา: http://nutthunnie.blogspot.com/2012/01/blog-post.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น